ส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทย มีกี่วิธี และแบบไหนคุ้มค่าที่สุด

Last updated: 25 ม.ค. 2567  |  688 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทย มีกี่วิธี และแบบไหนคุ้มค่าที่สุด

       สวัสดีค่ะ วันนี้ The Flash Preorder มีบทความดีๆมาฝากค่ะ สำหรับนักท่องเที่ยวในญี่ปุ่นสายช็อปที่มีสัมภาระเยอะๆ หรือ คนไทยที่อาศัยในญี่ปุ่น ที่อยากจะส่งของกลับมายังประเทศไทย ผู้อ่านทุกท่านไม่ต้องเป็นกังวลเลยนะคะ การส่งของกลับมาไทยมีหลายวิธีค่ะ วันนี้จะมาแนะนำการส่งทั้งหมด 2 วิธีกันค่ะ

วิธีที่ 1 คือการใช้ขนส่งของทางญี่ปุุ่นโดยตรง คือ ขนส่งกับทาง Japan Post เลยค่ะ จะคล้ายๆกับการส่งของไปรษณีย์ไทยของบ้านเรา จะมีขั้นตอนการส่งดังนี้ค่ะ

       อันดับแรกนะคะ เราจะต้องเช็คของที่ต้องการส่งก่อนว่าเป็นสินค้าที่ละเมิดกฎหรือเป็นข้อห้ามในการขนส่งข้ามประเทศหรือไม่ค่ะ ซึ่งการขนส่งทางอากาศและทางเรือจะมีของต้องห้ามดังนี้ค่ะ


  

  

  
กระป๋องสเปรย์ น้ำหอม พลุ ดอกไม้ไฟ แฮร์โทนิค (ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม) ยาทาเล็บ สินค้าที่มีแอลกอฮอล์มากกว่า 24% เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แบตสำรอง บุหรี่ไฟฟ้า ฯลฯ
(https://www.post.japanpost.jp/int/use/restriction/index_en.html)


       อันดับที่สองนะคะ เมื่อตรวจสอบสินค้าแล้วจะเป็นขั้นตอนการเลือกวิธีการส่งกันค่ะ
การส่งสินค้าของ Japan Post มีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับขนาดของพัสดุ อัตราค่าไปรษณีย์ ระยะเวลาที่ต้องจัดส่ง ฯลฯ ซึ่งทาง Japan Post วิธีจัดส่งดังนี้ค่ะ



1.ด่วนพิเศษ (EMS) วิธีนี้จะเป็นวิธีที่นิยมและรวดเร็วที่สุดค่ะ เพราะจะใช้เวลาในการัดส่งประมาณ 2-4 วัน 

2.ทางอากาศ (Airmail) วิธีนี้จะเร็วปกติค่ะ ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 5 วัน

3.ทางอากาศชั้นประหยัด (SAL) วิธีนี้จะใช้เวลาในการัดส่งประมาณ 2 อาทิตย์

4.ทางเรือ (Surface Mail) วิธีนี้จะใช้เวลาในการัดส่งประมาณ 1-3 เดือน และ ค่าบริการจะถูกที่สุดค่ะ

ซึ่งในการส่งแบบพัสดุ สามารถแบ่งรูปแบบออกเป็นตามนี้ค่ะ

1.พัสดุย่อย (Small Package) 

- ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 2 กก. 

- พัสดุมีความยาวไม่เกิน 60 เซนติเมตร และมีความกว้าง+ยาว+สูง รวมกันไม่เกิน 90 เซ็นติเมตร 

- สามารถส่งได้ 3 วิธีคือ Airmail, SAL, Surface mail

(https://www.post.japanpost.jp/int/service/small_packing_en.html)

2.International ePacket Light จะมีความคล้ายกับพัสดุย่อยเลยค่ะ 

- ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 2 กก. 

- พัสดุมีความยาวไม่เกิน 60 เซนติเมตร และมีความกว้าง+ยาว+สูง รวมกันไม่เกิน 90 เซ็นติเมตร 

- สามารถส่งได้วิธีเดียว คือแบบ SAL เท่านั้นค่ะ 

(https://www.post.japanpost.jp/int/service/epacketlight_en.html)

3.International Parcel Post 

-  ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 30 กก.

- พัสดุมีความยาวไม่เกิน 1.5 เมตร และมีความกว้าง+ยาว+สูง รวมกันไม่เกิน 2 เมตร 

- สามารถส่งได้ 3 วิธีคือ Airmail, SAL, Surface mail 

(https://www.post.japanpost.jp/int/service/i_parcel_en.html)

4.EMS 

-  จะมีน้ำหนักไม่เกิน 30 กก.

- พัสดุมีความยาวไม่เกิน 1.5 เมตร และมีความกว้าง+ยาว+สูง รวมกันไม่เกิน 3 เมตร 

- จะสามารถส่งได้แบบ EMS เท่านั้น

ทางเราจะแนะนำตัวอย่างอัตราค่าบริการของสินค้าที่มีน้ำหนัก 5กิโลกรัม จะคิดได้ดังนี้ค่ะ

ส่งแบบ EMS ราคา 8,150เยน (ประมาณ 1970 บาท)

ส่งแบบ Airmail  ราคา 7300เยน (ประมาณ 1770 บาท)

ส่งแบบ Surface mail  ราคา 4300เยน (ประมาณ 1040 บาท)

หรือผู้อ่านสามารถเช็คอัตราค่าบริการขนส่งได้ด้วยตัวเองทางลิงค์นี้เลยนะคะ

(https://www.post.japanpost.jp/cgi-charge/index.php?lang=_en)

       หลังจากเราได้วิธีการขนส่งแล้ว อันดับที่สามจะเป็นการเตรียมใบปะหน้าพัสดุค่ะ เราสามารถไปขอใบปะหน้ากับทางไปรษณีย์มากรอกเองได้และสามารถดูตัวอย่างวิธีการกรอกได้ในลิงค์นนี้เลยค่ะ

(https://www.post.japanpost.jp/int/use/writing/parcel_en.html)

  

หรือถ้าหากผู้อ่านต้องการ Print ใบปะหน้าเองสามารถทำได้บนหน้าเว็บเลยค่ะเพียงแค่ลงทะเบียนแล้วทำตามขั้นตอนนี้ได้เลย
(https://www.int-mypage.post.japanpost.jp/mypage/M010000.do?request_locale=en)

ขั้นตอนสอนการลงทะเบียน สามารถกดดูในขั้นตอนที่3ได้เลยนะคะ มีทั้งวิธีทำบนPC และ Smartphoneค่ะ
(https://www.post.japanpost.jp/int/howto/index_en.html)

ข้อควรระวัง : ทางเราแนะนำว่าผู้อ่านทุกท่าน Print ใบปะหน้าจากทางหน้าเว็บนะคะ เพราะตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2024 เป็นต้นไปทาง Japan Post จะไม่รับใบปะหน้าที่เป็นการเขียนลายมือสำหรับการส่งของข้ามประเทศค่ะ เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดระหว่างการขนส่งได้ค่ะ

นอกจากใบปะหน้าแล้วนะคะยังมีเอกสารสำคัญอีกสองอย่างที่ต้องเตรียมคือ แบบฟอร์มแจ้งศุลกากร CN22หรือCN23 และใบกำกับภาษี

  

วิธีการกรอกใบศุลการกร(https://www.post.japanpost.jp/int/use/writing/customs_en.html)
ข้อมูลใบกำกับภาษี(https://www.post.japanpost.jp/int/use/writing/invoice_en.html)

       อันดับสุดท้ายก็จะเป็นขั้นตอนแพ็คของและจัดส่งของให้กับไปรษณีย์ค่ะผู้อ่านสามารถนำส่งที่ไปรษณีย์ด้วยตัวเองหรือสามารถเรียกรถจากไปรษณีย์มารับได้นะคะแต่จะเป็นแบบเฉพาะพัสดุ EMS and International Parcels เท่านั้นค่ะ

       จากวิธีในการใช้ขนส่งของทาง Japan post ผู้อ่านอาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องของการเสียภาษีนะคะซึ่งถ้าหากต้องเสียภาษีอาจจะทำให้ผู้อ่านต้องเสียเวลาในการดำเนินการและการเดินทางไปเสียภาษีกับทางกรมศุลกากร ทางเรามีอีกวิธีมาแนะนำค่ะ 

        การใช้บริการกับทางร้านเรา The Flash Preorder ซึ่งทางร้านเรารับส่งของจากทางญี่ปุ่นกลับไทย พร้อมเคลียร์ภาษี และผู้อ่านสามารถรอรับของได้ที่หน้าบ้านได้เลยนะคะ เดี๋ยวทางเราจะแนะนำวิธีให้ค่า สะดวกและง่ายมากๆค่ะ 

ร้านของเรารับบริการขนส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทยค่ะ โดยจะมีทั้งทางเรือ และทางเครื่องบิน 

ทางเรือ โกดังที่ญี่ปุ่นจะปิดรอบทุกวันเสาร์ และใช้เวลาขนส่งนับจากวันเสาร์ที่ของถึงโกดัง 18 - 20 วัน ถึงไทย 
ทางเครื่องบิน โกดังที่ญี่ปุ่นปิดรอบทุกวันเสาร์ และใช้เวลาขนส่งนับจากวันจันทร์ที่ของสินค้าส่งออก 10 - 14 วัน ถึงไทย


หลังจากที่ของถึงไทยแล้ว ทางร้านเราจะเตรียมแพ็คและจัดส่งให้ลูกค้าทันทีภายใน 2 - 3 วันค่ะ ซึ่งวิธีการจัดส่งของจากทางญี่ปุ่นให้ทางโกดังในญี่ปุ่นของเราจะมีวิธีดังนี้ค่ะ

1. แอดไลน์ของทางร้าน @theflash เข้ามาเพื่อแจ้งรายละเอียดพัสดุที่ต้องการจัดส่งพร้อมแจ้งวิธีการจัดส่งจากญี่ปุ่นมาไทย ว่าเป็นทางเรือ หรือ ทางเครื่องบิน
2. แอดมินจะแจ้งรายละเอียดค่าจัดส่งมาไทย ซึ่งทางร้านจะคิดเรทโดยการชั่งน้ำหนักพัสดุ
ค่าขนส่งญี่ปุ่นมาไทยทางเรือ โลละ 200 บาท คิดขั้นต่ำครึ่งโล
ค่าขนส่งญี่ปุ่นมาไทยทางเครื่องบิน โลละ1000 บาท คิดขั้นต่ำครึ่ง 1 โล ปัดทุกครึ่งโล
       เช่นต้องการส่งพัสดุน้ำหนัก 5 กก. อัตราค่าส่งทางเรือจะอยู่ที่ 200*5 = 1,000 บาท หรือ ส่งทางเครื่องบิน 1000*5 = 5000บาท ค่ะ (ราคาค่าขนส่งของทางร้านจะเป็นราคาขนส่งพร้อมเคลียร์ภาษีให้เลยค่ะ ซึ่งคุ้มค่ามากๆค่ะ)
3.ผู้อ่านแจ้ง ชื่อ และที่อยู่ในไทย สำหรับลงทะเบียนรหัสลูกค้ากับทางแอดมิน
4. แอดมินจะแจ้งที่อยู่โกดังญี่ปุ่นให้กับผู้อ่านเพื่อนทำการส่งของไปยังโกดังของเรา
5. ผู้อ่านนำพัสดุไปจัดส่งกับทางขนส่งในญี่ปุ่น เพื่อส่งมายังโกดังของทางร้าน ซึ่งเรามีคลิปวิธีการจัดส่งพัสดุสำหรับนักท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่ต้องการส่งของกลับไทย สามารถกดดูในลิงค์นี้ได้เลยค่ะ(https://fb.watch/pLevlGspqW/ )
6. หลังจากจัดส่งแล้ว ถ่ายรูปใบปะหน้าและแจ้งให้กับแอดมิน
7. เมื่อสินค้าถึงไทย จะมีแอดมินแจ้ง ค่าขนส่งจากไทยไปยังบ้านของท่าน ให้ชำระเงินพร้อมส่งสลิปให้แอดมินค่ะ (ในกรณีนัดรับ จะไม่เสียค่าขนส่งในไทยนะคะ)
8. เมื่อชำระเงินเรียร้อยแล้ว แอดมินจะส่งแบบฟอร์มให้กรอกข้อมูลการจัดส่งในไทยค่ะ


       เมื่อทำตามทุกขั้นตอนทางข้างต้นแล้วก็สามารถรอรับของที่หน้าบ้านได้เลยค่ะ เห็นไหมคะว่าวิธีนี้สะดวก และรวดเร็วมาก หมดห่วงไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องช้อปปิ้ง หรือ กระเป๋าน้ำหนักเกิน หรือ เป็นกังวลในการมาเที่ยวญี่ปุ่นอีกต่อไปค่ะ ทางร้านเรายินดีให้บริการผู้อ่านทุกท่านอย่างเต็มที่ค่ะ หากสงสัยในเรื่องใดสามารถทักเข้ามาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มีแอดมินคอยให้บริการ 24  ชั่วโมงเลยค่ะ

 ช่องทางการติดต่อ

 Website : https://www.japanshippings.com/

 Facebook : https://www.facebook.com/japanshippings01

 Line : @theflash

 Tel. : 088-899-1594

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้